

จากโพสที่แล้วติวได้เล่าเรื่องของที่มาของ Sigil ไปแล้วค่ะว่า Sigil คืออะไรและมีที่มายังไง วันนี้ติวเลยจะมาแชร์เทคนิควิธีในการทำ Sigil อย่างง่ายให้ทุกคนดูค่ะ
.

.

1.พระจันทร์
2.6 เหลี่ยม
3.เครื่องหมายบวก
4.ลูกศรและทิศทาง
.
ก่อนที่เราจะเริ่มออกแบบ Sigil เราต้องมาดูความหมายของสัญลักษณ์แต่ละแบบกันก่อนค่ะ โดยนี่เป็นความหมายของสัญลักษณ์ย่อย 1-4 ที่ติวกล่าวได้ด้านบน
1.พระจันทร์ แบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบคือ
-waxing crescent พระจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น (เสี้ยวจันทร์หันหน้าไปด้านซ้าย) หมายถึง การเพิ่มพลังงาน การเติบโต การเริ่มต้น
-waning crescent พระจันทร์เสี้ยวข้างแรม (เสี้ยวจันทร์หันหน้าไปด้านขวา) หมายถึง การลดพลังงาน การตัดออก การจบ การหายไป
-Upward-facing crescent พระจันทร์เสี้ยวหงาย หมายถึง การกักเก็บพลังงาน การดึงความโชคดี
-Downward-facing crescent พระจันทร์เสี้ยวคว่ำ หมายถึง การระบายออก การปกป้อง
**พระจันทร์หงายกับจันทร์คว่ำ สามารถใช้คู่กันได้ ในกรณีที่เราต้องการรักษาบาลานซ์ค่ะ
2.หกเหลี่ยม หมายถึง การเก็บพลัง ความสามัคคี การเป็นหนึ่งเดียว
3.บวกและกากบาท หมายถึง จุดนัดพบ การเพิ่มพลัง การทวีคูณ
4.ลูกศรและทิศทาง หมายถึง การเพิ่ม การลด การบอกทิศทาง การขึ้น การลง ซ้าย ขวา
.

ตัวอย่าง : ติวต้องการออกแบบซีจิลที่ช่วยในเรื่องของการดึงดูดความคนที่พลังงานบวกให้มาเจอกับเรา เพิ่มความโชคดีในการเจอสิ่งที่เป็นพลังงานบวก ติวก็จะออกแบบ Sigil ตาม Step ที่ติว post ไว้ในรูปตามนี้ค่ะ
Step 1 : ดึงจุดเชื่อมความสัมพันธ์ต่างๆของผู้คนด้วยเครื่องหมายบวก
Step 2 : จับทิศทางของพลังงานด้วยเครื่องหมายลูกศร
Step 3 : ดึงพลังงานบวกและความโชคดีขึ้นสู่ด้านบนด้วยพระจันทร์หงาย



Step 4 : รักษาบาลานซ์ภายนอกรอบตัวด้วยพระจันทร์เสี้ยวด้านซ้ายและขวา
Step 5 : สร้างความเป็นหนึ่งเดียวทั้งหมด แล้วกักเก็บพลังงานดีทั้งหมดไว้ด้วยกันด้วยรูปหกเหลี่ยม ( Complete )



พอได้ Sigil ตามที่ต้องการก็จะนำซีจิลไปใช้ในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสลัก การวาด การเขียน การเพ้น การทำเครื่องราง เครื่องประดับ การประกอบพิธีกรรมหรืออื่นๆ แล้วทำการชาร์จพลังซีจิลให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปใช้งานและรอผลได้เลยค่ะ ซึ่ง Post ต่อๆไปติวจะมาแชร์เรื่องราวต่างๆทางด้านศาสตร์ตะวันตก ด้านโหราศาสตร์ การทำนายและเวทมนตร์ให้ทุกคนต่อไปค่ะ